CAT@fin
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 61 Registration date : 05/06/2007
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: "เศรษฐกิจพอเพียง" โดยคุณณรงค์ โชควัฒนา Thu Aug 09, 2007 1:46 pm | |
| "เศรษฐกิจพอเพียง
ในทัศนะของนายณรงค์ โชควัฒนา ประธานกรรมการบริหารกลุ่มแพน กระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในประเด็นเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง หมายถึง เศรษฐกิจที่พึ่งตนเองได้ หรือการมุ่งพึ่งพาตนเองแทนการหวังพึ่งผู้อื่น หมายถึงการปฏิบัติสิ่งใด ๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไปจากขั้นตอนเล็กไปหาใหญ่ ค่อย ๆ สั่งสมประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ และพัฒนาไปตามลำดับ ดังเช่นที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานทฤษฎีใหม่ 3 ขั้นตอน ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการพัฒนาศักยภาพของประชาชนตามลำดับ จากการพึ่งตนเอง สู่การพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และการเป็นพันธมิตรกับองค์กรอื่น ๆ
ทฤษฎีขั้นตอนที่ 1 เป็นการพึ่งตนเองในระดับปัจเจกชน แต่ละคนหรือแต่ละครอบครัว สร้างผลผลิตพอเพียงที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ตามอัตภาพและกำลังความสามารถของ ตนเอง ดังเช่นตัวอย่างในการจัดสรรที่ดินจำนวน 15 ไร่ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการแบ่งที่ดิน 5 ไร่ สำหรับปลูกข้าวให้เพียงพอที่จะใช้บริโภคภายในครอบครัว ทำให้สามารถพึ่งตนเองด้านอาหารหลัก คือข้าว ที่ดินอีก 5 ไร่ สำหรับขุดเป็นบ่อน้ำเพื่อเสริมการเพาะปลูกและบริโภค เป็นการพึ่งตัวเองในปัจจัยสำคัญที่สุดคือน้ำ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาดินฟ้าอากาศเพียงอย่างเดียว ส่วนที่ดินที่เหลืออีก 5 ไร่ ใช้สำหรับปลูกสร้างที่อยู่อาศัย พืชผัก หรือสมุนไพรที่ใช้รักษาโรค ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาตลาดหรือพ่อค้าลงได้ เพราะได้ผลิตสิ่งที่กินเองใช้เองได้ เหลือจึงขาย ขายไม่ได้ก็เก็บไว้กินเองใช้เองหรือเจือจานแลกเปลี่ยนกับคนในหมู่บ้าน
ทฤษฎีขั้นตอนที่ 2 เป็นขั้นตอนของการรวมตัวกันเพื่อเป็นชุมชนหรือสหกรณ์ หลังจากที่ปัจเจกชนสามารถพึ่งพาตนเองได้แล้ว มารวมตัวกันเป็นชุมชนหรือสหกรณ์ จะนำไปสู่การร่วมกันคิดแก้ไขปัญหาบางประการที่เกินกว่ากำลังความคิด ความสามารถของคน ๆ เดียวจะทำได้ ซึ่งการวมตัวกันในขั้นตอนนี้ จะเป็นการรวมกันเป็นชุมชนที่พึ่งตนเองได้ ไม่ใช่การรวมตัวกันเพื่อหวังพึ่งคนอื่น เช่น พึ่งภาครัฐ พ่อค้า นักธุรกิจ นักการเมือง ข้าราชการ ฯลฯ สามารถทำให้เกิดพลังความคิด สติปัญญาที่เข้มแข็ง เกิดการสั่งสมประสบการณ์ สร้างทักษะและเรียนรู้ถึงวิธีการอยู่และทำงานร่วมกัน ทฤษฎีขั้นตอนที่ 2 ชุมชนจะต้องเรียนรู้การพึ่งพาอาศัยกันที่มีทั้ง give and take (การให้และการรับ) มีการช่วยเหลือเอื้ออาทรกัน พึ่งกัน การพึ่งพาอาศัยกันให้มีความเข้มแข็งจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ เพื่อให้ปัจเจกชนรู้จักการเสียสละ ผ่อนหนักผ่อนเบา การยึดเอาความคิดและผลประโยชน์ของตัวเองไม่ได้ ปัจเจกชนที่ไม่สามารถเรียนรู้และปรับตัวเองเป็นสมาชิกของชุมชนที่ดีได้ ก็แยกอยู่เป็นปัจเจกชนที่พึ่งตัวเองได้ และพัฒนาเป็นธุรกิจเอกชนต่อไป
ทฤษฎีขั้นตอนที่ 3 เป็นขั้นตอนเชิงรุกของการสร้างพันธมิตร หลังจากที่มีการรวมกลุ่มกันเป็นชุมชนที่เข้มแข็งและพึ่งตนเองได้ และเกิดการเชื่อมโยงกับผู้อื่น เป็นการสร้างพันธมิตรในลักษณะพึ่งพาอาศัยกันอย่างเสมอภาค เมื่อชุมชนเข้มแข็งขึ้น และจะขยายการค้าไปสู่เมืองและต่างประเทศที่อยู่ห่างไกล การรวมตัวกันขอบคนในอาชีพเดียวกัน คนบ้านใกล้กัน เฉพาะในชุมชน ในชนบท อาจจะมีทักษะไม่พอ ไม่ทราบถึงรสนิยมของลูกค้าในเมือง หรือในต่างประเทศที่เป็นตลาด หรือไม่ทราบว่าควรจะตั้งราคาอย่างไร มีหีบห่อการบรรจุอย่างไร และควรจะผลิตรูปแบบ สีสัน หรือรสชาติอย่างไรให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในตลาด เป็นต้นหมายเหตุ คัดลอกจากเว็บไซด์ของคุณณรงค์ อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ http://www.nchokwatana.com/ | |
|